วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าจากสนามนักปั่น

จบฤดูกาลปั่นจักรยาน ระยะทาง100 กม.
TC100 ปี 2016 ที่จัดแข่ง 3 สนาม
ลง 2 สนาม ผ่านทั้ง 2 สนาม 
ที่พุทธมณฑลและสัตหีบ
ขาดสนามแรกที่ จปร. นครนายก

จากวันวานเมื่อปลายปี 58
ที่ตัดสินใจเลือกออกกำลังกาย
เพื่อวิธีการหนึ่งที่พาตนเองไปสู่เป้าหมาย
ตามที่ตั้งใจไว้ ... ในเส้นทางวิทยากร
เส้นทางที่ต้องพร้อม
ทั้งพลังกาย พลังใจ พลังคิด

ปัดหมุดหมายฝึกฝนฐานกายให้พร้อม
เริ่มจากการลงสนามฝึกปั่น
ที่บึงหนองบอนด้วยระยะทาง 5 กม.
และไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้ 15 กม.
เหนื่อยสายตัวแทบขาด หายใจแทบไม่ทัน
#เป็นบทเรียนแรกจากมือใหม่หัดปั่น
#ไม่มีความสำเร็จใดเป็นความสำเร็จรูป

ก้าวผ่านขีดความสามารถร่างกายเดิม
สู่ความท้าทายที่สนามเขียว(ในเวลานั้น)
ตื่นตาตื่นใจกับตั๋วเที่ยวเดียว
ไม่มีทางย้อนกลับ ระยะทาง 23 กม.
เห็นความหลากหลายของเหล่าฝีมือ
เห็นความแข็งแกร่งของนักปั่นขาแรง
#เป็นบทเรียนที่สองของนักปั่นสมัครเล่น
#ปลูกต้นรักให้สิ่งที่เลือกในเป้าหมายที่ใช่
#บอกตัวเองตลอดว่าฝันให้ไกลไปให้ถึง

ฝึกฝนอย่างเข้มข้นเติมวินัยในตัวเอง
ไต่ระดับขึ้นที่ 30 กม. เพิ่มสปีดได้เร็วขึ้น
สัมผัสถึงพลังกายที่เริ่มแข็งแกร่งขึ้น
กายและใจสัมพันธ์กัน คนกับรถเป็นหนึ่งเดียว
เริ่มสนุกในเกมชีวิตเมื่อก้าวลงสนามปั่น
#เป็นบทเรียนที่สามของสาวขาปั่น
#กล้าที่จะก้าวก้าวด้วยความกล้า
#กางปีกบินเตรียมล่าฝัน

เมื่อกายพร้อมใจแกร่ง
ตั้งเป้าหมายใหม่ท้าทายตนเอง
เพื่อวัดรอยเท้านักปั่นขาแรง
ว่าหนึ่งปีที่เพียรซ้อมมุ่งมั่นฝึกฝน
เมื่อก้าวลงสู่สนามนักปั่น
เราคืบคลานเข้าใกล้เพียงใด
เราจะพาตัวเองจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง
ได้ผลลัพธ์มากน้อยเพียงใด
#บทเรียนบทสุดท้ายในสนามซ้อมปั่น
#เมื่อไม่พร้อมให้เริ่มเลย
#ร้อยรู้ฤาจะสู้ลงมือทำ
#ความเจ็บปวดจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น

แม้ฤดูกาล 2016 จบลงด้วย 2 เหรียญ
หากได้พิสูจน์แจ่มชัดว่า
การเป็น  "ป้านักปั่น"
ได้เรียนรู้มากกมาย มากกว่า คำว่า ออกกำลังกาย

พบกันใหม่ในฤดูกาลหน้า TC100
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@CaochJeep
>>Work-Life Balance


  
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

ทุกพฤติกรรมล้วนมีสาเหตุ

มองออกไปเห็นอะไรบ้าง ?

กรอบความคิด (Mindset)
จะเป็นตัวตั้งต้นเสมอ ...

เชื่ออย่างไร ทำอย่างนั้น
คิดอย่างไร ทำอย่างนั้น
รู้สึกอย่างไร ทำอย่างนั้น

ทำบ่อยเข้าบ่อยเข้า
จะกลายเป็น พฤติกรรม
เรียกอีกอย่างว่า นิสัย
จากพฤติกรรมที่เกิดซ้ำซ้ำ
จะกลายเป็น คุณลักษณะ
เรียกอีกอย่างว่า (...)


ทางจิตวิทยากล่าวว่า
ทุกพฤติกรรมมีสาเหตุ
เมื่อหลอมรวมเป็น คุณลักษณะ
นั่นคือ ชะตาขีวิต

....
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep

>>Mindfulness Coaching with M-THAI
>>Psycho Talk with Positive Psychology


-ภาพจากห้องรับรองลูกค้าระหว่างรอรถเข้าศูนย์-
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าจากงานปิดหลักสูตรไทยโค้ช7

จากการขึ้นไปร่วมปิดหลักสูตรไทยโค้ช7
ณ ไร่เชิญตะวัน จ. เชียงราย
ท่าน ว. วชิรเมธี บรมครูไทยโค้ช
ได้สนทนาธรรมกับกลุ่มไทยโค้ช
เก็บเล็กประสมน้อย ถ้อยคำคมของท่าน
ในช่วงวันเวลาเหล่านั้น
#ที่จะมาต่อยอดเป็นทักษะชีวิต
+ เป็นพระรูปหนึ่ง ต่างกับ เป็นพระอีกรูปหนึ่ง
+ ศิลปะการดำรงชีวิต อย่าติดอยู่กับเสิ้อนอกของความเป็นคน
+ ความรับผิดชอบต่อสังคมเริ่มต้นจากข้าวเมล็ดเดียว
+ การให้ที่ยั่งยืน เมิ่อคนมาขอข้าวให้สอนวิธีดำนา เมื่อคนมาขอเงินให้สอนอาชีพ
+ มองทะลุโลกสมมุติให้ได้ อย่าได้หลงลืมความเป็นมนุษย์ของตนเอง
จงถอดสมมุติบัญญัติกลับสู่ความเป็นมนุษย์ล้วนล้วน
+ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของมนุษย์
คือการทำผิดโดยไม่รู้ว่าตนกำลังทำผิด
+ จงเริ่มทำที่ "จินตนาการ" ไม่ใช่ เริ่มที่ข้อจำกัด
+ หยุดหาเหตุผลให้ตนเอง ที่เต็มไปด้วย
การหาเหตุผลที่เป็นความล้มเหลวให้ตนเอง
+ ปรับใจให้เป็นจริงกับสิ่งที่เป็นจริง
เพราะความทุกข์คือความต้องการที่สวนทางกับความจริง
+บนความสำเร็จของเรา มีใครบ้างที่ได้
รับส่วนแบ่งในความสำเร็จนั้น
#ที่มาต่อยอดในการโค้ช
+ การโค้ชจะเป็นครื่องนำพามนุษย์ก้าวเจริญไปข้างหน้า
+ การโค้ชจะเป็นภูมิคุ้มกันให้มนุษย์อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ทุกสิ่งอย่างไม่มีตัวตนที่แน่นอน
+ การโค้ชวิถีไทยเป็นการฝึกอยู่กับความไม่เที่ยง ฝึกอยู่กับการตื่นรู้ ให้รู้ทัน พร้อมเข้าใจ หลุดจากโลกแห่งความคิดหยุดปรุงแต่ง ตื่นรู้กับโลกปัจจุบัน
+ การโค้ชวิถีไทย เริ่มต้นที่ตนเอง เปลี่ยนแปลงตัวเอง ก้าวสู่จิตวิญญาณ
ไม่ใช้ภาษาสมอง
+ คนเป็นโค้ช ... โค้ชเพื่ออะไร?
เพื่อปากท้อง หรือ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

Mindfulness is Enough
เมื่อสมองปรองดองกับหัวใจ
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep


เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

กลยุทธ์การโค้ชเพื่อพิชิตเป้าหมาย

ได้ฤกษ์งามยามดีหยิบหนังสือแปลเล่มนี้มาอ่านจนจบ
เป็นอาหารสมองยามเช้าวันจันทร์
"Coaching for Performance" โดยผู้แต่ง John Whitmore ผู้แปล วุฒินันท์ ชุมภู
ได้กล่าวว่า ...
- การเปลี่ยนสภาพโดยการโค้ชเพื่อผ่านพ้นตัวตน ที่เน้นในหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับเจตจำนง
ความตั้งใจหรือสำนึกรับผิดชอบเดินด้วยศาสตร์ด้านจิตวิทยาการผ่านพ้นตัวตน (Transpersonal Psychology)
- คนเป็นโค้ชมีความสัมพันธ์กับภาวะผู้นำอย่างยิ่ง ที่ต้องตระหนักรู้ความจริงในตัวเองและผู้อื่น รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับความฉลาดทางอารมณ์ (EQ : Emotional Intelligence) และความฉลาดทางจิตวิญญาณ (SQ : Spiritual Intelligence)
- อนาคตของการโค้ชคือบทบาทในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้และการสร้างความสัมพันธ์ในการทำงาน รวมทั้งบริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่สร้างความยั่งยืนเชิงคุณภาพ
- การเป็นโค้ชเป็นการบ่มเพาะคนให้เติบโตด้วยตนเอง เป็นการพัฒนาคนที่เกิดมาจากข้างในใจตนเอง ปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากความหวดกลัวมาเป็นกระบวนทัศน์แหงความไว้เนื้อเชื่อใจ พัฒนาคนให้ดำรงอยู่ได้ด้วยตนเองทั้งทางด้านสังคมและจิตใจ

#การโค้ชมุ่งความสนใจไปในสิ่งที่จะเป็นไปได้ในอนาคตมากกว่าเรื่องความผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา
#แก่นแท้ของการโค้ชคือการปลดปล่อยศักยภาพที่มีอยู่ในตัวคนออกมาเพื่อให้สามารถสร้างผลงานที่ดีที่สุดได้ด้วยตนเอง
#หากอยากโค้ชให้ได้ผลเราก็จะต้องรู้จักเรื่องความสามารถที่สงบนิ่งอยู่ในตัวของคนทุกคนเข้าใจในแง่มุมที่ดีกว่าที่เคยเป็นมา



...
ชีวิตยังเดินต่อไป
เมื่อหยิบหมวก "โค้ช" มาสวมใส่
เมื่อสมองปรองดองกับหัวใจ
@CoachJeep



เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

มุมมองใหม่

โดยมาก เราไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่ใช่เพราะเรา ไม่อยากเปลี่ยน
แต่เป็นเพราะเราขาด... "มุมมองใหม่"
ที่กระตุ้นการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนมุมมอง
ช่วยสนับสนุนการเติบโตของเรา
มุมมองใหม่ ... จะช่วยในการวิเคราะห์สถานการณ์จากหลายแง่มุม
ใช้ทั้ง ความรู้สึก ความคิด และสัญชาตญาณ
ของตัวเอง ในการลงลึกและเปิดกว้างมากขึ้น
ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด
จงใช้จินตนาการ
และฟังเสียงสัญชาตญาณภายใน


...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
>>Mindfulness Training & Group Coaching with M-THAI
>>Psycho Talk with Positive Psychology
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Story telling for Coaches เล่าอย่างไรให้ได้เรื่อง : ตอน 2

#เป็นเรื่องเล่าของน้องสาวผู้น่ารัก  Thita Phatwarawisit  
#ขออนุญาตแบ่งปัน เพื่อการเรียนรู้ร่วมกันในสังคมไทยโค้ชด้วยความเป็นกัลยาณมิตร

11 June 2016
รวมพลคนไทยโค้ช ครั้งที่ 1
ตอน Story telling for Coaches เล่าอย่างไรให้ได้เรื่อง
โดย โค้ชอภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
วันนี้พี่น้องชาวไทยโค้ช พร้อมใจมารวมพลกันเพื่อเรียนรู้การเล่าอย่างไรให้ได้เรื่อง กับ โค้ชอภิวุฒิ story teller ขั้นปรมาจารย์
ทำให้ได้เรียนรู้หลายสิ่งอย่างที่รู้สึก wow อยู่เรื่อยๆ เช่น
- เหตุผลที่การโค้ชต้องใช้คำถาม (ไม่แนะนำ) เพราะเรื่องต่างๆที่เราได้ฟังจากโค้ชชี่เป็นเพียงบางส่วน ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตเค้า และได้ผ่านตัวกรอง (filter) ของเค้ามาแล้ว หากโค้ชแนะนำตามสิ่งที่ได้ยิน อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด
- เหตุผลที่คนเก่งที่ประสบความสำเร็จในการงานหลายๆคน ไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นโค้ช ประการหนึ่งคือ คนเก่งไม่เข้าใจว่า "ทำไมคนไม่เก่งถึงไม่เก่ง"
- การโค้ชเป็นธุรกิจบอกต่อ (referal) ซึ่งองค์กรจะสนใจเรื่องของ process ในการโค้ช, chemistry check และ personal reference เป็นลำดับต้นๆ
- การเล่าเรื่องมีประโยชน์ในกระบวนการโค้ชหลายๆส่วน เช่นระหว่างทำ chemistry check, build rapport etc..
- คนชอบฟังเรื่องเล่า เพราะเรื่องเล่าทำให้สมองหลั่งสาร oxytocin ทำให้คนรู้สึกเห็นอกเห็นใจ (empathy) หรือ อินนนนมาก
- Aristotle เป็นครูที่สอนการเล่าเรื่องคนแรก ได้กล่าวว่าการเล่าเรื่องให้สนุกต้องเริ่มจาก suffering (ระทม) struggling (รันทด) Turning (ระทึก) และจบด้วย Happy ending (รอดทุกข์)
- จุดสังเกตว่าเรื่องที่เล่าไป ดีหรือไม่คือ ให้สังเกต reaction ของผู้ฟัง เช่น ผู้ฟังอาจตอบว่า แล้วไง? เมื่อไม่สนใจ หรือ แล้วไงต่อ? เมื่อสนใจอยากรู้
- นักเล่าเรื่องที่ดีควรเป็นตัวของตัวเอง ไม่เอาเรื่องของคนอื่นมาเล่าว่าเป็นเรื่องของตน ใช้จังหวะในการเล่าที่เหมาะสม และฝึกเล่าบ่อยๆ เพื่อสร้างความเป็นธรรมชาติในการเล่า และที่สำคัญต้องเชื่อในเรื่องที่เลือกมาเล่าด้วย
- และสุดท้าย ไม่ว่าจะทำอะไรไม่จำเป็นต้องรอให้มีความพร้อมซะก่อน..เมื่อไม่พร้อมให้เริ่มเลย 👍🏻
ขอขอบพระคุณโค้ชอภิวุฒิ ที่แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ให้พวกเราอย่างสนุกสนาน ขอบคุณพี่แก้ว พี่โชติ พี่โต พี่โจ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการเล่าเรื่องให้พวกเราได้รับชม ขอบพระคุณมากค่ะพี่น้องชาวไทยโค้ชทุกท่านที่เรียนรู้ร่วมกันค่ะ 😊
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

Story Telling for Coaches : เล่าอย่างไรให้ได้เรื่อง : ตอน1

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2559 มาร่วมงาน "รวมพลคนไทยโค้ช ครั้งที่ 1"
ตอน "Story Telling for Coaches : เล่าอย่างไรให้ได้เรื่อง" โดย โค้ชอภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
ขอเล่าเรื่องในบทเรียน
ครูคนแรกที่สอนการเล่าเรื่อง (The First Storytelling Teacher) คือ
Aristotle - Greek Philosopher (384-322BC)
เรื่องเล่าที่สนุก เดินด้วย 4 ขั้นตอน คือ
ระทม -Suffering
รันทด -struggling
ระทึก -Turning
รอดทุกข์ -Happy Ending
ก่อนจบการบรรยาย ...
โค้ชอภิวุฒิกล่าวว่า
Competency ของ คนเล่าเรื่อง ใน Story Telling
เป็นตัวเดียวกันกับ Competency คนที่ชอบนินทา
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep

เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คุณสมบัติของนักสื่อสาร

ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
เราจำเป็นต้องเรียนรู้และชำนาญใน 2 ทักษะ
การสื่อสาร ... เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันกับเรา
การประสานงาน ... เพื่อให้ได้งานตามเป้าหมายขององค์กร

พลังของความคิดบวกจะทำให้เราเข้าใจ
และยอมรับคนอื่นมากขึ้น โดยผ่านการสื่อสารสร้างสัมพันธ์
พลังในการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ
มาจากทักษะในการสื่อสาร และแรงจูงใจที่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ร่วมกันแบบ win-win

นักสื่อสารที่นำเสนอความคิดเพื่อจูงใจคนอื่น มีคุณสมบัติดังนี้
1. แม่นในเนื้อหา เนื้อหาที่มีประโยชน์
2. วิธีการที่ดึงดูดความสนใจ
3. รูปแบบที่สร้างภาพจดภาพจำ
4. กระตุ้นให้เกิดความเห็นพ้องที่คล้อยตาม


                                              (ขอบคุณภาพสวยๆ จากสื่อออนไลน์)

...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
>>Mindfulness Training & Group Coaching with M-THAI
>>Psycho Talk with Positive Psychology
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ภาพลักษณ์คือนามบัตรใบแรก

วันนี้ได้รับเกียรติจาก
โค้ชติ๊ก อจ. กีรณา จิรเศรษฐากูล
Tig Identity Coach
ให้มาเป็น Guest Speaker
"ภาพลักษณ์ที่คุณเป็น ... เมื่อสวมหมวก วิทยากร"
ภาพลักษณ์ที่เป็นเราที่พาเราสู่ความสำเร็จ
ภาพลักษณ์ที่เป็นเราจะดึงคุณค่าที่เรามีออกมา
ภาพลักษณ์ที่เป็นเราถูกนำเสนอผ่านสีที่เหมาะสมเพื่อสร้างความประทับใจ
ภาพลักษณ์ที่เป็นเราคือสไตส์ที่แสดงความเป็นตัวเองอย่างแท้จริง
ภาพลักษณ์ที่เป็นเราจะช่วยให้ขีวิตเราง่ายขึ้น ดีขึ้น เร็วขึ้น และประหยัดขึ้น
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep

เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

การหาเป้าหมายในชีวิต

การเดินทางท้ายสัปดาห์เริ่มต้นอีกครั้ง
ระหว่างพักทานมื้อเช้า
ได้จุ่มแช่ในความไม่รู้
เห็นหลากหลายชีวิตโลดเล่นบนถนนชีวิต




การหาเป้าหมายในชีวิต  เริ่มต้นด้วย ...
1. หาเป้าหมายตัวเองให้เจอว่า ชีวิตต้องการอะไร อย่างไร และต้องการเมื่อไร

2. เราห่างจากเป้าหมายมากน้อยแคไหน
จุดที่เรายืนอยู่มีส่วนสนับสนุนให้เราไปถึงเป้าหมายหรือไม่ อย่างไร


3. มีทางเลือก มีทางเดิน มีวิธีการ ที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายได้กี่เส้นทาง แต่ละเส้นทางจะพาเราไป
เป็นอย่างไร ประเมินผลได้ผลเสียในแต่ละเส้นทาง


4. ตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ใช่ เรารู้สึกเป็นสุขและสนุก ได้ผลคุ้มค่ากับชีวิตเราที่จะพาไปสู่เป้าหมาย
จากนั้นลงมือทำ และเดินหน้าต่อไป

@ กฎเหล็กในการระหว่างเดินทาง
- ประเมินเส้นทางว่ามาถูกทางไหม
- ประเมินความคุ้มค่าว่าคุ้มค่าไหม
- ประเมินศักยภาพตนเองว่าต้นทุนชีวิตเพียงพอไหม

#โปรดจำไว้ว่าไม่มีความสำเร็จใดเป็นความสำเร็จรูป

...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep

>>Mindfulness Training & Group Coaching with M-THAI
>>Psycho Talk with Positive Psychology
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559

IFS: Internal Family System

ในจิตวิทยาตัวตน ที่ถอดรูปมาเป็น IFS
(IFS: Internal Family System)
ได้พูดถึง self (ตัวตน) ในตัวเรา รวม 3 Self
Self ที่ถือเป็นจิตดั้งเดิมในตัวเรา พื้นที่แห่งรักและปัญญา
Self ที่เป็ผู้พิทักษ์ในตัวเรา ที่คอยดูแล (Protector)
Self ที่เป็นเด็กน้อยในตัวเรา ที่เป็นปม (Exile)
ทั้งหมดจะผลัดกันมานั่งใน เก้าอี้แห่งจิต (Seat of consciousness)
ที่ส่งผลในการดำเนินชีวิตของเรา
เมื่อเราเข้าไปส่องดูว่า ณ ขณะนี้
ใน 3 ตัวตน (Self) ใครเป็นผู้ครอบครองเก้าอี้แห่งจิต
จะทำให้เราเรียนรู้และเข้าใจตัวเราเองมากขึ้น
เกิดการยอมรับตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเอง


วันนี้เป็นวันของแก๊งนักปั่น
ที่เวียนกลับมาปั่นแถวๆ จปร. เขาขะโงก
แต่การมาครั้งนี้ เรามีบาดแผลเกาะลึกเป็นปมในใจ
ที่เกิดจากการเจ็บอย่างหนัก หน้าแหกยับ ตัวฟกช้ำ
จากรถจักรยานที่ล้ม ตอนลงจากสันเขื่อน
เมื่อช่วงก่อนสงกรานต์ 59 ที่ผ่านมา
แล้วในวันนี้เมื่อแก๊งนักปั่นเลี้ยวรถปั่นขึ้นเขา
มีเป้าหมายที่อ่างเก็บน้ำ
เราสัมผัสได้ถึงเด็กน้อยในตัวเรา
เด็กน้อยที่นั่งสั่นระริก เกาะเก้าอี้แห่งจิตไว้แน่น
เมื่อเราได้เข้าไปมองหา ...
อยากให้ผู้พิทักษ์แห่งความกล้าออกมาปกป้อง
เด็กน้อยที่หวาดกลัว
แต่ด้วยความกลัวที่เกาะเป็นปมแห่งความเจ็บปวด
เด็กน้อยไม่ยอมปลดปล่อยเก้าอี้แห่งจิต
สิ่งที่เกิดขึ้นจากการรับรู้สภาวะเด็กน้อย
ที่เข้ามาควบคุมเก้าอี้แห่งจิตของเรา
ทำให้เราได้รับรู้และตั้งรับใหม่กับสิ่งที่เกิดขึ้น
ตัวเราได้รับรู้ถึงความกลัวของเด็กน้อยที่สั่นไหว
สิ่งที่เกิดตามมาคือ
เราหยุดรถจักรยาน ลงจากรถ
เพื่อตั้งสติ ไม่ผลีผลาม ไม่ยึดติดกับคำว่า
เมื่อนั่งอานรถแล้ว เท้าจะไม่เหยียบพื้น
ตั้งสติสักใหญ่ สูดลมหายใจเต็มปอด
เรียกพลังแห่งความมั่นคง
แล้วค่อยกลับขึ้นมาปั่นรถจักรยานอีกครั้ง
มีสติจดจ่อ ประคองรถให้ค่อยๆ ปล่อยไหลลงจากสันเขื่อนอย่างช้าๆ อย่างมั่นใจ
และปลอดภัยในที่สุด
เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นและอยู่กับตัวตน (Self) ของตนเอง
เป็นครั้งแรกที่รับรู้สภาวะที่เกิดขึ้นกับเก้าอี้แห่งจิต ของตนเอง
เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าใจตัวตนด้วยตนเองอย่างแจ่มชัด
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
>>Mindfulness Training & Group Coaching with M-THAI
>>Psycho Talk with Positive Psychology
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เติมความสุขให้ชีวิตด้วย PERMA

ถ้าพูดถึง "ความสุข"
คุณนึกถึงสิ่งใด ?
ถ้าให้นิยามคำว่า "สุข"
คุณหมายถึงอะไร ?
สิ่งหนึ่งที่นำมาใช้ประเมินความสุข
ในศาสตร์ของจิตวิทยาเชิงบวก
เรียกกันว่า " PERMA "
คนที่มีความสุข ... จะมีองค์รวมทั้ง 5 ด้วย PERMA
คนที่มีความสุข ... จะเดินชีวิตด้วยองค์รวมทั้ง 5 ด้วย PERMA
‪#‎P‬-positive emotions
มีอารมณ์เชิงบวก มองทุกอย่างว่ามีเรื่องดีๆ ผสมอยู่เสมอ
... นำมาคู่ความสำเร็จ
‪#‎E‬-engagement
ความผูกพัน ความรักในสิ่งที่ประสบพบเจอ
... ใจต้องได้มาด้วยเช่นกัน
‪#‎R‬-positive relationship
เสริมสร้างมิตรภาพกับคนรอบข้างด้วยดี
ีน่าคบน่าสมาคม
... เชื่อมสายสัมพันธ์ที่ดี
‪#‎M‬-meaning
รู้คุณค่าในตัวเอง เข้าใจยอมรับในตัวตนเอง
... นำพาชีวิตให้มีความหมาย
‪#‎A‬-accomplishment
เรียนรู้การใช้ชีวิต รู้วิถีทางแห่งชีวิตตนเอง
... ใช้ชีวิตให้อยู่รอด
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep

>>Mindfulness Training & Group Coaching with M-THAI
>> Psycho Talk with Positive Psychology
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

MagicWord เป็นคำพูดที่ให้ "ค่าคน"

จิตวิทยาเมื่อเอามาใช้ในการบริหาร
เพื่อจูงใจทีมงาน
กล่าวเสมอว่า ...
คำพูด สามารถ "ค่าคน" หรือ "ฆ่าคน"
เมื่อต้องการได้ใจทีมงาน
ผู้บริหารที่เล่นเป็น ...
มักใช้คำพูดที่ติดปาก
ในกลุ่ม Magic Word
MagicWord เป็นคำพูดที่ให้ "ค่าคน"
ที่มองเห็นคุณค่าคนในทีม
ที่ให้เกียรติคนในทีม
ที่เปิดใจยอมรับคนในทีม
7 คำที่มีค่า
"พี่เสียใจ ที่ทำผิดพลาด"
6 คำที่มีค่า
"มาตรวจสอบความจริงกัน"
5 คำที่มีค่า
"น้องทำงานได้ดี"
4 คำที่มีค่า
"ความเห็นน้องล่ะ"
3 คำที่มีค่า
"กรุณา"
2 คำที่มีค่า
"ขอบคุณ"
1 คำที่มีค่า
"เรา"
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep

>>Mindfulness Training & Group Coaching with M-THAI
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

3 คน ในชีวิตเรา

ในช่วงชีวิตหนึ่ง
เราจะเจอผู้คนมากมาย
แต่มีคนอยู่ 3 คน
ที่เราต้องพาตัวเองไปอยู่ใกล้ ๆ
คนแรก คือ "คนเก่ง"
คนเก่งจะทำให้เรารู้สึก "ทึ่ง"
ทำให้เราได้เรียนรู้
วิธีคิด วิธีทำงานของเขา
ซึ่งจะทำให้เรา "เก่ง" ตามไปด้วย
คนที่สองคือ "คนดี"
คนดีจะทำให้เรารู้สึกถึงสัมผัส
ของความ "สงบร่มเย็น"
ความรู้สึกที่จะแบ่งปัน
และช่วยเหลือผู้อื่น
คนสุดท้าย คือ "คนมีความสุข"
คนมีความสุข จะทำให้เรา "สุขใจ" ไปด้วย
เพราะเขาจะมองอะไรในมุมบวกเสมอ
พลังแห่งความสุข จึงกระจายเข้าสู่ตัวเราด้วย
หากเราเชื่อมโยงคน 3 คน เข้าในตัวเรา
คงไม่แตกต่างกับกาแฟสำเร็จรูป 3 in 1
แน่นอน ...
เส้นทางชีวิตเราย่อมเปลี่ยนไป
ตามกรอบแนวคิดใหม่
ด้วย ... เก่ง ดี สุข
....
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
>>Mindfulness Training & Group Coaching with M-THAI

เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

l'm OK. You're OK.

เคยได้ยินเสียงคนในองค์กร
พูดแซวบ้างไหม ?
ในทำนองว่า...
I'm OK. You're not OK.
ในบริบทดังกล่าว
คนพูดได้นำทฤษฎีทางจิตวิทยา คือ
TA : Transactional Analysis
ของอีริคเบิร์น ที่กล่าวถึงจุดยืนแห่งชีวิตมาจับ
Position of Life กล่าวว่า...
เมื่อเรามีทัศนคติต่อตัวเรา
ควบคู่ไปกับเมื่อเรามีทัศนคติต่อผู้อื่น
เราจะแสดงออกเมื่ออยู่กับผู้นั้น อย่างนั้น ...
# I'm OK. You're not OK.
เป็นการบ่งบอกว่า ... ฉันถือไพ่เหนือเธอ
ฉันมีอำนาจอยู่ในมือ
เธอแย่เอามากๆในสายตาฉัน
# You're OK. I'm not OK.
เป็นการบ่งบอกว่า ... เธอถือไพ่เหนือฉัน
เธอมีอำนาจอยู่ในมือ
ฉันแย่มากๆในสายตาเธอ
# l'm not OK. You're not OK.
เป็นการบ่งบอกว่า ... ฉันและเธอต้อยต่ำเหมือนกัน
ฉันและเธอไม่มีดีอะไรเลย
เป็นพียงตัวเล็กๆ เพียงตัวหนึ่ง
# l'm OK. You're OK.
เป็นการบ่งบอกว่า ... ฉันและเธอมีคุณค่าเช่นกัน
ฉันและเธอมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน
เราทั้งคู่ควรให้ความเกียรติกันและกัน
ปลูกทัศนคติใหม่
ในการมองตนเองและมองคนอื่น
สร้างจุดยืนแห่งชีวิตใหม่
ด้วย l'm OK. You're OK.
เพื่อเข้าใจในเพื่อนมนุษย์
เพื่อสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกัน
เพื่อความงดงามในความเป็นกัลยาณมิตร
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
04.05.2016

>> Mindfulness Training & Group Coaching with M-THAI
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559

การให้คำปรึกษา Counseling

ศาสตร์แห่งจิตวิทยา
การให้คำปรึกษา Counseling 
เป็นกระบวนการที่พาคนปกติ
ออกจากสภาวะผิดปกติ
ออกจากความทุกข์ ความคับข้องใจ
ออกจากอาการเศร้า เหงา รัก
เรียนรู้และเข้าใจ
ตกผลึกในองค์ประกอบ
ผู้ให้คำปรึกษา Counselor
กระบวนการให้คำปรึกษา Counseling
ผู้รับคำปรึกษา Counselee
Counselor เป็นเพียงเพื่อนร่วมเส้นทาง
ทำให้เกิดการรับรู้ว่า
ฉันยังนั่งอยู่ข้างๆเธอ
Counseling เป็นกระบวนการ
มีหลักการในการเดินด้วย
8 ทฤษฎีทางจิตวิทยา
Counselee เป็นผู้เลือกวิถีทางด้วยตัวเอง
เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ในตัวเอง
ในคำว่า Self-Awareness
ตบท้ายก่อนจบคลาสด้วย
การเชื่อมโยงเรียงร้อยเข้าต่อกัน
ด้วยศาสตร์ของ Counseling
เข้ากับศาสตร์ของ Coaching
Everything as A Whole
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
>>Mindfulness Training & Group Coaching with M-THAI


เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:
สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)