วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าจากหนังสือ

ในชีวิตเรา มีหนังสือ 2 ประเภทที่จะช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ
@ ประเภทที่หนึ่ง หนังสือที่ตนเองชอบ >>>หนังสือที่อยากอ่าน
เลือกและหยิบอ่าน มีความสุข สนุก ฟินอิน เมื่อได้อ่าน
@ ประเภทที่สอง หนังสือที่ตนเองต้องอ่าน>>>หนังสือที่ต้องอ่าน 
เลือกและหยิบอ่าน เพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนที่นำไปสู่ความสำเร็จของชีวิต

การอ่านหนังสือให้ครบถ้วนทุกด้าน เติมเต็มศักยภาพในตัวเอง
เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ อย่างต่อเนื่อง
เพื่อเสริมทักษะในด้านต่าง ๆ ที่อยากจะพัฒนา
เพื่อจรรโลงจิตใจ คุณธรรมให้สูงขึ้น

หนังสือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการพัฒนาตนเอง
เพื่อให้เกิดทักษะต่างๆ อย่างมากมาย
หนังสือก็เปรียบเสมือนปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตเรา
หนังสือถือเป็นอาหารสมองที่จะช่วยบำรุงความรู้
และประเทืองปัญญาให้เราได้เป็นอย่างดี

เราจำเป็นต้องให้อาหารสมองที่ดี มีประโยชน์
และให้อาหารใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้เราสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และได้รับแรงบันดาลใจ
ในการดำเนินชีวิตให้ก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง


สำหรับตัวเองมักใช้หนังสือ... เป็น "โค้ช (Coach)" ให้ตัวเอง
หลายคนคงสงสัยว่า>>> โค้ช (Coach) ได้อย่างไร?
เวลาอ่านหนังสือแล้ว ตั้งคำถามเพื่อชวนตัวเองว่า...
“ได้เรียนรู้อะไรจากหนังสือบ้าง? หยิบหลักการอะไรได้บ้าง?
ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ Style และสถาวะที่กำลังเผชิญอยู่ปรับมาใช้ได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด”



...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559

ว่าด้วยจิตวิทยาเชิงบวก

Positive Psychology : จิตวิทยาเชิงบวก
จิตวิทยาที่ยึดเอาจุุดแข็งของมนุษย์เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาด้านต่างๆ
@ การพัฒนาในด้านคุณค่า (Value)
@ การรับรู้ของการลื่นไหลของกิจกรรมต่างๆ (Flow)
@ การมองโลกในแง่ดี (Optimism) 
@ ความหวัง (Hope)
@ ความสุข (Happiness)
ตนเองได้มี Mindset มาตลอดว่า
‪#‎แม่นหลักการแล้ววิธีการมาเอง‬
เมื่อนำจิตวิทยาเชิงบวกมาใช้ในการดำเนินชีวิต ...
ระหว่างเดินทางไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
เราจะได้ผลลัพธ์อยู่ 2 ประ เท่านั้น
ประแรกคือ ประสบความสำเร็จ
ประสองคือ ประสบการณ์
เลิกถามตัวเองได้แล้วว่า
ที่เดินๆ อยู่ล้มเหลวพ่ายแพ้มากี่ครั้ง
หันมาถามตัวเองด้วยการมองในแง่ดีว่า
ที่เดินๆ อยู่ได้รับประสบการณ์อะไร
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

เรื่องเล่าจากห้องเรียน 5ส

ในความเป็นกัลยาณมิตรของกลุ่มไทยโค้ช
เมื่อวาน 10.01.2559
ที่ได้ร่วมบอกเล่าประสบการณ์แบ่งปันองค์ความรู้ในหัวข้อ
"5ส เพื่อการเพิ่มผลผลิต" (5S for Productivity)
สะสาง, สะดวก, สะอาด, สร้างมาตรฐาน, สร้างวินัย

เดินด้วยกระบวนการ Training
ที่เติมองค์ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง
ในหลักการ... ที่ใช้ 5ส (5S) เป็นเครื่องมือ
ที่นำไปสู่เป้าหมายคือ การเพิ่มผลผลิต (Productivity)
พร้อมเดินด้วย Coaching
ที่เริ่มต้นด้วยกรอบของ Mirror Model
ตามด้วยการเช็คสภาวะผู้เรียน (โค้ชชี่)
ด้วย M-THAI ให้เกิดความ Balance
ตบท้ายด้วยการใช้คำถามสไตส์โค้ช
ที่เป็นเพียงเพื่อนชวนคิด ...
เพื่อให้โค้ชชี่เข้าสู่ดุลยภาพ
ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวโค้ชชี่เอง
...
ขอบคุณมากสำหรับเสียงสะท้อนจากผู้เรียนและโค้ชชี่จากห้องเรียนวานนี้
วันนี้ขออนุญาต คุณกนกพร ไทยโค้ช6
นำข้อความในไลน์กลุ่มมาแบ่งปัน
‪#‎แน่ใจว่าคุณ‬ รู้จัก 5ส
‪#‎ส่วนมากรู้จัก‬ แต่ ไม่รู้จริง
ตัวหนกเอง ยิ่งไม่เคยทำงานออฟฟิศแล้ว เหมือนอยู่คนละโลก
....."มันเป็นเรื่องของคนทำงานราชการ งานออฟฟิศ พวกโรงงาน มาตรฐานการผลิต เราไม่ใช่คน OD HR QC ธุรการ วิศวกรโรงงาน หรือ ทำงาน กรม กอง จะรู้ไปทำไม ????....."
นั่นคือสิ่งที่ตัวเองคิด
เราส่วนมากรับรู้แค่ว่า 5ส คือ Big cleaning day บ้างล่ะ
จัดบอร์ด ผักชี ไว้รอหัวหน้า องค์กรกลางมาตรวจบ้างล่ะ
ตรวจเสร็จ ประเมิณเสร็จ แล้วก็เละ
5ส ส่วนมาก เลยกลายเป็น "ซุกกิ้ง System"
เทศกาลดอกดาวเรือง และ โรยผักชี !!!
คนส่วนใหญ่มองว่ามันน่าเบื่อ ไร้สาระ
มันเพิ่มงาน
แทนที่จะเป็นเครื่องมือ จัดการ บริหารองค์กร มันกลับกลายเป็น "ภาระ" ใช่หรือไม่ ???
วันนี้ ได้มาเรียนรู้ 5ส จากโค้ชจี๊ป แค่ intro ยังไม่เปิดสไลด์ 5 นาที
ป้ารู้เลย เฮ้ย ชั้นเจอMaster เจอของจริงว่ะ
5ส จากโค้ชจิ๊บวันนี้ ตัวเองได้เรียนรู้ว่า
5ส ไม่ใช่การสร้าง"นิสัย"ใหม่
แต่เป็นการสร้าง "วินัย" ใหม่
โดยการลงไปปรับพฤติกรรมใหม่
จับปรับ 3 องค์ความรู้ ที่ลึกลงไปในวงจรที่เกิดพฤติกรรม
- ปรับ"ความเชื่อ"ใหม่
ว่า 5ส ไม่ใช่ "ภาระ" แต่เป็น "หน้าที่"
- ปรับ"ความคิด"ใหม่ ว่า 5ส ไม่ใช่การจับผิด แต่ คือการจับถูก สร้างฐานความคิดใหม่ ว่าทำอย่างไร จะทำให้มันถูกที่ ถูกทาง ถูกเวลา
-ปรับ"ความรู้สึกใหม่" คือ การรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของเจ้านาย หรือ ลูกน้อง หรือ ของเพื่อนร่วมงาน
เราทำ 5ส ได้ เราก็สะดวก สบาย เพิ่มคุณภาพ เพิ่มศักยภาพ ในงานของเราเอง
เมื่องานเราได้ผล ส่งผลต่อองค์กร กลับกลายเป็นผลผลิต คุณภาพงานที่มากขึ้น และ ผลกำไรกลับมามากขึ้นส่งผลต่อโบนัส และ เงินเดือน
เพิ่มคุณค่าต่อตัวเรา ส่งผลต่อองค์กร
(**จับทฤษฎีMaslow**มาร่วมขับเคลื่อน)
เมื่อปรับวงจรพฤติกรรมใหม่ การกระทำก็เปลี่ยน
เกิดพฤติกรรมใหม่
เพราะ เราเชื่ออย่างไร เราจะทำอย่างนั้น
คิด อย่างไรต่อสิ่งใด บวก หรือ ลบ มันส่งผลต่อพฤติกรรม(นิสัย) อย่างนั้น
พฤติกรรมเช่นไร ก็ส่งผล ให้เราเป็นคนมีคุณลักษณะ(สันดาน) เช่นนั้น
5ส วันนี้ จึงBeyond และเปิดโลกมากมายในทุกทุกเรื่องของชีวิต
ขอบคุณปรมาจารย์ทาง 5ส ตัวแม่อย่างโค้ชจิ๊บ ที่ไม่ใช่แค่เอาทฤษฎี มานั่งปิ้งแผ่นใส หรือ โชว์ภาพฉายสไลด์
วันนี้ โค้ชจี๊ป เน้นตลอดว่า อย่าจำเอา"วิธีการ" แต่ ให้จำเอา "หลักการ" และ องค์ความรู้ มาประยุกต์ใช้ในทุกทุกเรื่อง
กลับจากเรียนวันนี้ ป้ามาจัดภาพในมือถือใหม่
เรียงApplication หน้าจอใหม่
สอนเฮียจัดไฟล์ในคอมพ์ใหม่
เขียน To do list ที่จะ เริ่ม "สะสาง" ของหลายอย่าง แต่ละห้อง ในบ้าน
เขียนplan จัดการระบบ Stock และ ออฟฟิศ ใน 3 ไตรมาส ข้างหน้า
และ เริ่ม Clear ความคิด เป้าหมาย ตัวเองใหม่ ให้ไม่ "สะสม" จนรกเรื้อ กลายเป็นขยะทางใจ และ ความคิด
บอกตรงตรง ตอนแรกที่เรียน คิดว่าจะเอาไปใช้ในงานธุรกิจที่บ้าน ออฟฟิศ และ เอาไปใช้เป็นหัวข้อทำมาหากินในการเทรนนิ่ง
แต่พอเรียนจบ มันคือ Ultimate 5ส มากมาก
ขอบคุณไทยโค้ช
ขอบคุณโค้ชจี๊ป อ.จารุวดี ปวรินทร์พงษ์
ขอบคุณกัลยาณมิตร เพื่อน รุ่นพี่ไทยโค้ชทุกท่าน ที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในสายงานของตน
ชอบ ที่โค้ชจี๊ปแชร์เรื่อง เอา 5ส ไปจัดระเบียบในบ้าน และ เลี้ยงลูก
ชอบเรื่องกฏ 21 วัน (นึกถึง 90 days game plan เลย )
ชอบ เรื่องวิธีละลายน้ำแข็ง
ไม่รู้ดิ อยู่ดีดี มันก็ Think แว๊บ ขึ้นมาว่า ทำไมเราไม่เอา 5ส มาจับ ใน Life coaching มั่ง
จัดข้าวของโรงงานทั้งระบบ คนเป็นร้อยเป็นพันได้
เอา 5ส มาจัดระบบหัวใจ และ ความคิด ในการดำเนินชีวิต มันคงสุดยอดมาก
"You do anything in your life that you do everything in your life !!!

...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
10.01.2016

เข้าใจจิตวิทยาว่าด้วย วงจรพฤติกรรม

โครงการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล
การไม่ใช้ยาปฏิชีวนะอย่างพร่ำเพรือเป็นแนวคิดหลักของ ASU (Antibiotics Smart Use) ที่ทวนกระแสสังคม ขัดแย้งกับความรู้ความเชื่อเดิมๆ โดยสร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้อง
เดินตามหลักการที่เป็นสโลแกนว่า...
"ใช้ยาสมเหตุผล ไม่จน ไม่แพ้ ไม่ดื้อยา"
‪#‎เพื่อเปลี่ยนเป็นความเชื่อใหม่‬
1. ยาปฏิชีวนะไม่ใช่ยาแก้อักเสบ ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อยาแพง
2. ยาปฏิชีวนะเป็นยาอันตราย เสี่ยงต่อการแพ้ยาและทำให้เชื้อดื้อยา
3. มี 3 โรคที่พบบ่อยได้แก่ หวัด-เจ็บคอ ท้องร่วง-อาหารเป็นพิษ และแผลเลือดออก หายได้เองได้ด้วยภูมิต้านทานของร่างกาย ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ

เมื่อตระหนักในหลายสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว
จะเห็นว่าหลายสิ่งอย่างได้นำหลักการทางจิตวิทยามาจับ...
หลายสิ่งหลายอย่างได้เดินตาม "วงจรพฤติกรรม"

เมื่อเปลี่ยน "ความเชื่อใหม่" จะได้ "การกระทำ"  ใหม่
เมื่อเปลี่ยน "ความคิดใหม่" จะได้ "การกระทำ"  ใหม่
เมื่อเปลี่ยน "ความรู้สึกใหม่" จะได้ "การกระทำ"  ใหม่
เมื่อ "การกระทำใหม่"  ทำซ้ำๆ จะได้  "พฤติกรรมใหม่"
เมื่อ  "พฤติกรรมใหม่" ทำซ้ำๆ จะได้  "คุณลักษณะประจำตัว"



แล้วท่านปลูกอะไรให้กับวงจรพฤติกรรมของท่านเอง?
....
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
15.01.2016

เครดิตข้อมูล... จากห้องรอตรวจผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฏ
เครดิตภาพ... จากเพื่อนในโลกออนไลน์

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

SWOT แห่งชีวิต



เข้าปีใหม่เดือนใหม่วันใหม่ 2559 อย่างเป็นทางการ
เทศกาลรื่นเริงได้จบลงอย่างงดงาม
ชีวิตในโลกแห่งความจริงกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง
...
เมื่อก่อน... เราเคยนำ SWOT มาวางแผนกลยุทธ ์เพื่อความสำเร็จให้องค์กรในการทำงาน
มาหลายต่อหลายครั้ง
วันนี้... เราหันกลับเอา SWOT มาวางแผนชีวิตตนเอง เพื่อไล่ล่าความฝัน ค้นหาความสำเร็จในกลยุทธ์ชีวิตของเราเอง
เดินชีวิตด้วยหลักการ SWOT
- เริ่มต้นด้วยการทำ Goal Setting หา"เป้าหมายชีวิต" ให้กับขีวิตตนเอง ที่ไม่ต่างจาก กำหนดพันธกิจ ขององค์กร
- ตามด้วย S / Strengths = ค้นหา "จุดเด่น" ในตัวตนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายนั้น
- ปิดด้วย W / Weaknesses = กลบ "จุดด้อย" ในตัวตนที่คอยฉุดรั้งศักยภาพในตัวเอง
- มองหา O / Opportunities = จับจ้อง "โอกาส" ที่เป็นพันธมิตร กัลยาณมิตร มิตรภาพ ที่มีส่วนนำพาชักนำเราให้ไปสู่เป้าหมาย
- เฝ้าระวัง T / Threats = ระวังสิ่งที่เป็น "ข้อจำกัดจากภายนอก" ที่มาจากสภาวะการณ์ ที่เกิดจากแวดล้อมที่สกัดกั้นกีดกันเราไม่ให้เดินไปถึงเป้าหมาย
....
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
01.01.2016

โรงเรียนชีวิต



นับจากที่ตัดสินใจปลดแอกตนเอง
จากการเป็นมนุษย์เงินเดือน เมื่อปี2555
มาลงสนามชีวิตเลือกที่จะเป็นเจ้านายตัวเอง
เลือกเส้นทางเดินในการก้าวสู่ฝัน
การเป็น โค้ช วิทยากร ที่ปรึกษา อิสระ
เมื่อเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ๆ
เป็นเหมือนการกลับมาโรงเรียนอีกครั้ง
แต่ในครั้งนี้... เป็น "โรงเรียนชีวิต"
วันนี้ครบรอบปีที่3 ของการอยู่ในรั้วโรงเรียนชีวิต ...
ไม่มี... การอ่านหนังสือเพื่อสอบทำเกรด
แต่เป็น... การอ่านหนีงสือเพื่อเพิ่มศักยภาพตนเอง
ไม่มี... การทำข้อสอบเพื่อพาสชั้นใหม่
แต่เป็น... การทำข้อสอบเพื่อวัดศักยภาพตนเอง
ไม่มี... การจัดลำดับความเก่งกับเพื่อนในชั้นเรียน
แต่เป็น... การจัดลำดับความเก่งเพื่อต้องแข่งกับตัวเอง
ไม่มี... การสอบแก้ตัวเมื่อสอบตก
แต่เป็น... การมุ่งมั่นในเส้นทางที่เลือกเดิน
เดินด้วยความเชื่อและความรักที่มีให้วิชาชีพนี้
ที่ในบางครั้ง... มีน้ำตาเป็นเพื่อนหล่อเลี้ยงจิตใจ
ไม่มี... ใบ รบ. เพื่อแสดงว่าจบการศึกษา
แต่เป็น... ความภาคภูมิใจที่มาเติมเต็มหัวใจ
ในการเป็น "ผู้ให้ เป็นกัลยาณมิตร" ที่มีคุณค่ามากกว่าบทบาทที่สวมใส่
ได้จบการศึกษาในภาคเรียนชีวิตประจำปี 2558 แล้ว
ช่วง 7 วันสุดท้าย ...
เป็นการเตรียมตัวเข้าภาคเรียนชีวิตประจำปี2559
...
ชีวิตยังเดินต่อไป
@Coach Jeep
24.12.2015